รีวิว Toyota C-HR รุ่นปรับปรุงใหม่ ที่มาพร้อมกับสเปค และ ราคาที่โดนใจแบบสุดๆ จัดได้ว่าเป็นสปอร์ตครอสโอเวอร์อีกรุ่นที่มีดีไซน์โดดเด่น สวยงามทั้งภายใน และ ภายนอก โดยมีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นกับสองทางเลือกสีหลังคาใหม่ Black roof หรือ Silver roof และ มีความแตกต่างฉีกแนวไปจากการออกแบบรถยนต์ของ โตโยต้า ในยุคที่ผ่านๆมา
รีวิว Toyota C-HR รุ่นปรับปรุงใหม่
รูปลักษณ์ภายนอก
- เน้นรูปลักษณ์ให้ดูสปอร์ตด้วยเส้นสายเหลี่ยมชนิดต่างๆอย่างชัดเจน ซึ่งถูกพัฒนา และ ได้รับการออกแบบบนพื้นฐานแพลตฟอร์มใหม่ของ Toyota Global News Architecture (TNGA) หลักๆของแพลตฟอร์มใหม่จึงทำให้ดูมีจุดเด่นมากยิ่งขึ้น และ ตัวถังก็มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
- จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงช่วยลดการโครงของตัวถัง ทำให้การเข้าโค้ง และ การขับขี่มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
- มีการดีไซน์ด้านหน้าให้ดูสปอร์ตด้วยชุดโคมไฟแบบโปรเจคเตอร์ LED ที่มาพร้อมไฟ Day Time Running Light ลากยาวเพิ่มเติมความสวยงามบนท้องถนน พร้อมกับชุดกันชนหน้าด้านล่างแบบรังผึ้งสีดำ ไฟตัดหมอก และ จุดเรดาร์ที่ช่วยทำการตรวจจับระยะห่างจากรถคันด้านหน้า
- รูปลักษณ์ของตัวถังมีความลู่ลม และ ให้ความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา มีการตกแต่งหลังคาด้วยสีดำที่ตัดกับสีสันของตัวถังจึงทำให้รถรุ่นนี้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
- บริเวณแก้มข้ามจะพบกับสัญลักษณ์ เพลท Hybridที่บ่งบอกถึงความเป็นขุมพลังผสม
- ตัวล้อมีการออกแบบมาอย่างเรียบง่าย และ มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยางสเปค 215/60r17
- ด้านข้างของตัวถังรถยนต์ถูกออกแบบมาพร้อมกับเส้นสายเหลี่ยมสัน และ มัดกล้ามที่ชัดเจน ซึ่งถือได้ว่าทำมาอย่างสวยงาม
- บริเวณด้านล่างของประตูก็จะพบกับชิ้นพลาสติกสีดำด้านขนาดใหญ่ที่ผสมผสานกับหลังคาแบบสีดำเงาตัดกับสีของตัวถังได้อย่างลงตัว
- ด้านท้ายรถไม่มีเส้นสายการออกแบบอะไรมากมาย ชุดโคมไฟท้ายเป็นรูปทรงบูมเมอแรงแบบ LED ที่มาพร้อมไฟหรี่แบบ LED เช่นเดียวกัน พร้อมชุดสปอยเลอร์ด้านบนที่มาพร้อมกับไฟเบรคดวงที่ 3
- ไฟทับทิมด้านหลังทั้งด้านข้าง และ ด้านบน สามารถส่องแสงชัดเจนในเวลากลางคืน
ภายในตัวรถ
- ภายในตัวรถมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นการออกแบบที่ล้ำ และ สวยงามไม่แพ้ภายนอกแถมยังมาพร้อมกับของเล่นเยอะไม่เบาเลยทีเดียว
- แผงคอนโซลภายในมีการออกแบบให้มีองศาเอียงเข้าหากับผู้ขับขี่เล็กน้อยเพื่อทำให้การใช้งานสะดวกสบาย และ ลดการละสายตาออกจากท้องถนน
- จอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว อยู่ในบริเวณกลางคอนโซลสามารถใช้งานได้ง่าย
- ด้านบนคอนโซลตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์สีน้ำตาลเข้ม พร้อมการเดินตะเข็บด้วยด้ายจริงๆช่วยเพิ่ม layer ความสปอร์ตด้วยชิ้นพลาสติกสีโครเมี่ยม
- แอร์มีลักษณะสี่เหลี่ยมทั้ง 4 ช่อง ตัดลงมาจากช่องแอร์กลางจะพบชุดควบคุมระบบปรับอากาศ ซึ่งเป็นแบบดิจิตอลที่มาพร้อมกับ nanoe ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสารที่มีความสดชื่น และ สะอาด ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโตโยต้า
- ดีไซน์แผงคอนโซลส่วนบนยื่นออกมาเล็กน้อยทำให้ด้านใต้ชุดปรับอากาศมีช่องเก็บของเล็กๆที่สามารถใส่กล่องซีดีหรือทำการวางอะไรเล็กๆน้อยๆได้
- มีช่องวางแก้วน้ำที่ค่อนข้างลึกพอประมาณแต่มีแค่เพียง 1 ช่องเท่านั้น
- ชุดเกียร์มีการดีไซน์ในรูปแบบ Sport ด้วยความยาวของด้านเกียร์ที่กำลังพอดีมือ มีผิวสัมผัสค่อนข้างดี ด้านล่างเกียร์จะพบกับเบรคมือแบบไฟฟ้า และ ปุ่มควบระบบ EV ปุ่มเปิด-ปิด แทร็คชั่น คอนโทรล และ ปุ่ม Hold ที่จะช่วยเบรคแม้เรายกเท้าออกจากแป้นเบรคโดยสามารถใช้งานได้ดีในยามรถติด
- แผงมาตราวัดต่างๆมีการออกแบบมาในรูปทรงสปอร์ต ช่วงด้านซ้ายแสดงถึงการใช้งานของระบบไฮบริด ช่วงชาร์จ ช่วง ECO รวมไปถึงช่วง Power ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นผลมาจากน้ำหนักคันเร่งที่เราส่งไปใช้งานแทรกด้วยจอกลางแบบTFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ MID
- พวงมาลัยเป็นแบบ multi function มีดีไซน์ใหม่แบบ 3 ด้าน ทรงสปอร์ต แหวกแนว และ สวยงาม ชุดควบคุมด้านซ้ายสามารถทำการควบคุมระบบ Entertainment ต่างๆ ปุ่มรับ-สายวางสาย ในส่วนด้านขวาทำการควบคุมจอ TFTกลางมาตราวัด พร้อมปุ่มควบคุมระบบ Lane Departure ระบบ Dynamic Radar Cruise Control ที่ช่วยรักษาระยะห่างรถเรากับคันหน้า และ ก้านด้านล่างจะเป็นด้านควบคุมระบบ Cruise Control
- เบาะนั่งหนังทรงสปอร์ต ตัวเบาะนั่งคู่หน้านั่งโดยสารได้ค่อนข้างสบาย เบาะหลังค่อนข้างอึดอัด ด้วยเบาะคู่หน้าที่หนา-ใหญ่ แผงกระจกข้างของประตูหลังที่เล็ก เสา C ที่ค่อนข้างหนา กระจกหลังเล็กทำให้ดูอึดอัดไปพอสมควร